โดย อาจารย์ถนอม คงยิ้มละมัย ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ปานถนอม อิ่นกอนฟ้อนแกน เป็นประเพณีการละเล่นของคนลาวโซ่งหรือไทยทรงดำ คือ การละเล่นโยนลูกช่วง หรือเล่นคอน และร่ายรำตามจังหวะเพลงแคนและต่อกลอนกันจนดึก แล้วจึงแยกกันไปพูดคุยกันเป็นคู่ ๆ เพื่อความสมัครสมานสามัคคี นำไปสู่ความรัก เพื่อความสนุกสนาน ทำให้หนุ่มสาวได้รู้จักคุ้นเคยจนก่อให้เกิดความรักและแต่งงานกัน การละเล่นโยนลูกช่วง “อิ่นกอน ฟ้อนแกน” เป็นสำเนียงชาว ไทยทรงดำ อิ้น หรือ อิ่น แปลว่า เล่น ,กอน คือลูกช่วง ซึ่งคนโซ่งจะเรียก มะกอน
คณะจาก มสธ. เข้าร่วมในงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ 18
เมื่อวันที่ 7-8 กุมภาพันธ์ 2561 ณ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ คณะนักแสดงชุด “อินกอนฟ้อนแกน” จากศูนย์วิทยพัฒนา มสธ. เพชรบุรี เข้าร่วมแสดงในงานศิลปวัฒนธรรมอุดมศึกษา ครั้งที่ 18 “นาฏยปรีดิยานันท์ กึ่งศตวรรษ สนามจันทร์ ศิลปากร” ในปีนี้มหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน ภายในงานมีสถาบันอุดมศึกษาเข้าร่วมกว่า 101 แห่ง มีการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรมกว่า 150 ชุด โดยจัดการแสดงตั้งแต่วันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ ในการนี้
ไทยทรงดำในจังหวัดเพชรบุรี
โดย นางสาวเพ็ชรดา เพ็ชรรัตน์ ศูนย์วิทยพัฒนา มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เพชรบุรี 1. ประวัติไทยทรงดำ ไทยดำหรือ “ลาวโซ่ง” ซึ่งความเป็นจริงคนกลุ่มนี้มิใช่คนลาวจากประเทศลาว แต่เป็นไทยดำจากเมืองเคียนเบียนฟู (เมืองแถง) ในประเทศเวียดนามที่ถูกเรียกว่าลาวเพราะอพยพผ่านประเทศมาพร้อมกับคนลาวในเวียงจันทร์ และลาวเมืองพวน อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี เป็นเมือง 3 ลาว คือ ลาวเวียง (ต.สระพัง) ลาวพวน(ต.หนองปลาไหล) แต่ส่วนใหญ่เป็นลาวโซ่ง 80 % คำว่า “โซ่ง”
การแต่งกายในสมัยรัตนโกสินทร์ : ตอนที่ 1 รัชกาลที่ 1 – 5
เมื่อครั้งสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีในปี พ.ศ. 2325 ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีอันดีงามต่างๆ ถูกสืบทอดมาจากสมัยอยุธยาแทบทั้งสิ้น รวมถึงลักษณะการแต่งกายด้วยเช่นกัน ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นยังคงใช้รูปแบบและลักษณะการแต่งกายเช่นเดียวกับสมัยอยุธยา ต่อมาภายหลังเมื่อความเจริญของชาวตะวันตกได้แพร่ขยายอิทธิพลเข้ามาจึงเริ่มมีการดัดแปลงลักษณะการแต่งกายของชาวตะวันตกผสมผสานกับการแต่งกายแบบดั้งเดิมเพื่อให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ผนวกกับการปรับปรุงประเทศของกษัตริย์ไทยในสมัยนั้นที่ต้องการให้ประเทศมีความก้าวหน้าทันสมัยและก้าวทันกับความเปลี่ยนแปลงตามกระแสโลก ตั้งแต่สมัยอยุธยาจวบจนกรุงรัตนโกสินทร์ลักษณะการแต่งกายไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการนุ่งหรือประเภทของผ้าที่นุ่งจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานภาพของผู้สวมใส่ว่าเป็นขุนนาง เป็นชนชั้นสูง หรือเป็นชาวบ้าน โดยการแต่งกายในแต่ละยุคแต่ละช่วงของกรุงรัตนโกสินทร์ สามารถจำแนกตามยุคสมัยรัชกาลได้ดังนี้ สมัยรัชกาลที่ 1 – 3 พ.ศ. 2535 – 2394 ในช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นยังคงแต่งกายตามรูปแบบดั้งเดิมตามสมัยอยุธยา ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมดังนั้นลักษณะการแต่งกายจึงต้องมีความทะมัดทะแมง โดยผู้ชายจะนุ่งโจงกระเบนถกสั้นเหนือเข่า ไม่สวมเสื้อ ไม่สวมรองเท้า หากอยู่บ้านจะนุ่งผ้าลอยชายหรือนุ่งโสร่ง