อิ่นกอนฟ้อนแกน

โดย อาจารย์ถนอม คงยิ้มละมัย  ผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ปานถนอม

อิ่นกอนฟ้อนแกน เป็นประเพณีการละเล่นของคนลาวโซ่งหรือไทยทรงดำ คือ  การละเล่นโยนลูกช่วง หรือเล่นคอน และร่ายรำตามจังหวะเพลงแคนและต่อกลอนกันจนดึก แล้วจึงแยกกันไปพูดคุยกันเป็นคู่ ๆ  เพื่อความสมัครสมานสามัคคี นำไปสู่ความรัก เพื่อความสนุกสนาน  ทำให้หนุ่มสาวได้รู้จักคุ้นเคยจนก่อให้เกิดความรักและแต่งงานกัน

การละเล่นโยนลูกช่วง “อิ่นกอน ฟ้อนแกน” เป็นสำเนียงชาว ไทยทรงดำ อิ้น หรือ อิ่น แปลว่า เล่น ,กอน คือลูกช่วง ซึ่งคนโซ่งจะเรียก มะกอน เป็นลูกสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เท่ากำมือของผู้ใหญ่ เย็บด้วยผ้าและยัดด้วยนุ่นหรือฝ้าย มีหางยาวหนึ่งช่วงแขน และในลูกมะกอน จะมีพู่ทั้งหมด 5 พู่ ยาวหนึ่งคืบเศษ ใช้เศษผ้า หลากสี อิ่นกอน กิจกรรมต่าง ๆ ในการเล่นลูกช่วงมีดังนี้

1. การเจรจาขอเล่นลูกช่วง หรือการรับเล่นลูกช่วง ฝ่ายชายมาเจรจาขอเล่นลูกช่วง หากฝ่ายหญิงรับก็จะนำพวงลูกช่วงไปแขวนไว้หน้าบ้านเพื่อแสดงให้หนุ่มบ้านอื่นไปหาที่เล่นลูกช่วงขวงอื่น ขวงเป็นสัญลักษณ์แห่งการพบปะ สถานที่ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับความรักความบันเทิงความสนุกสนานความคุ้นเคยสนิทสนมกันโดยอิสระ โดยประกอบด้วยบุคคลหลายประเภท คือทั้งหนุ่มสาว พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ และเด็ก

2. การโยนลูกช่วง แบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ขณะโยนลูกช่วงก็จะมีคำเจรจาหยอกล้อและจะเปลี่ยนคู่ในการโยนก็ได้ มีกติกาว่าโยน 3 ครั้งแล้วรับไม่ได้ติดต่อกันทั้งสามครั้ง หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายรับไม่ได้จำนวนครั้งมากกว่ากัน ก็ปรับเป็นแพ้ โดยผู้แพ้ต้องโดนปรับ โดยแลกเปลี่ยนของที่ระลึก มักเป็นผ้าเช็ดหน้า สไบ ผ้าขาวม้า นาฬิกาข้อมือชาย

3. การรำแคน การรำแคนจะประกอบด้วยเสียงแคนและเสียงปรบมือการร้องเพลงแก้กันเรียกว่า “เซิ่งกอน” เป็นการเล่นกล่อมโต้ตอบกันระหว่างชายหญิง ประกอบด้วยเสียงแคนและเสียงปรบมือการร้องเพลงแก้กัน จังหวะการรำแคนมีหลายจังหวะ ดังนี้คือ

  1. แกนยาง (แคนเดิน) เป็นจังหวะช้า ๆ รำเพื่ออวดเนื้ออวดตัว
  2. แกนแล่น (แคนแล่น) เพลงที่มีจังหวะเร่งเร้า จะรำสลับกันไปมา รำเอาเชิง หนุ่มสาวจะหยอกล้อกัน ชายก็พยายามจะทำท่าลวนลามหญิงก็ปัดป้องด้วยลีลาทางนาฏศิลป์ หนุ่มจะดูปฏิภาณไหวพริบของสาวในการหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกลวนลาม
  3. แกนแกร (แคนแกร) ทำนองคล้ายกับแคนเดินแต่มีจังหวะให้หยุดพูดคุยกันในช่วงสร้อยเพลง  สลับกันไป
  4. แกนระบำ (แคนระบำ)  จะรำช้าหมุนตัวทีละนิดทีละน้อยย่อตัวเหมือนระบำของชาวยุโรป จังหวะนี้จะถูกเนื้อต้องตัวกันได้ โดยใช้หลังชนกันและเปลี่ยนคู่กันไปเรื่อย ๆ
  5. สาวสะกิดแม่ (แคนสุพรรณ) หรือแมงภู่ตอมดอก หากสาวรำกับใครในเพลงนี้จะสื่อให้ญาติผู้ใหญ่ช่วยดูว่าเทือกเขาเหล่ากอของฝ่ายชายเป็นโรคเรื้อนหรือไม่ เจ้าชู้ ปล้น ไม่ทำกินหรือไม่ (เพลงนี้ไม่นิยมเซิ่งกอน)

4. การวานสาว คือการจองสาวเป็นคู่คุย สาวตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไปจะมานั่งเรียงแถวเอาผ้าสไบปิดหน้า หัวหน้าขวงจะประกาศว่าใครจะวานแม่ที่ 1 หนุ่มจะเดินออกมานั่งหน้าสาวคนที่ 1 หัวหน้าขวงจะบอกคุณสมบัติ (ชื่อ, หมู่บ้าน) ตลอดจนฐานะ ถ้าสาวพอใจก็จะเปิดหน้าและพาหนุ่มไปนั่งคุยบริเวณขวง ทำเช่นนี้จนครบตัวฝ่ายหญิง ขณะที่หนุ่มสาวคุยกัน หัวหน้าขวงก็จะเดินตรวจความเรียบร้อย ป้องกันการลวนลาม     ถ้าหนุ่มสาวพอใจจะคุยกันนาน ถ้าไม่พอใจจะเลิกคุยกันสองต่อสอง ช่วงที่นั่งคุยก็จะมีเสียงขับลำนำ