10 พฤศจิกายน 2561 ณ พระอุโบสถ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทานผ้าพระกฐินให้ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช โดยศาสตราจารย์ ดร. ประสาท สืบค้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้นำไปถวายพระสงฆ์ที่จำพรรษากาลครบถ้วนไตรมาส ณ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ โดยมีนายอนุรัฐ ไทยตรง รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยคณะข้าราชการ คณาจารย์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ดูงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์”
สำนักการศึกษาต่อเนื่อง มสธ. ได้เข้าศึกษาดูงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2561 – 19 มกราคม 2562 ณ พระลานพระราชวังดุสิตและสนามเสือป่า ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น เยี่ยมชมนิทรรศการประวัติศาสตร์ ขบวนเรือพระราชพิธี งานประดิษฐ์ไทยและอาหารชาววัง พร้อมบันทึกภาพกับภาพสามมิติแห่งความทรงจำ ร่วมกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และส่งเสริมความรักความสามัคคีในครอบครัว
งานชุมชนร่วมใจเชิดชูวัฒนธรรมไทยลอยกระทงที่ มสธ ประจำปี 2561
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2561 ณ บริเวณสระน้ำหน้าอาคารวิทยทัศน์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จัดงานชุมชนร่วมใจ เชิดชูวัฒนธรรมไทย ลอยกระทงที่ มสธ. ครั้งที่ 11 ประจำปี 2561 โดยร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายภายนอก ได้แก่ กรมที่ดิน บริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด สมาคมสุโขทัยธรรมาธิราช สโมสรสุโขทัยธรรมาธิราช สหกรณ์ร้านค้า มสธ.จำกัด สหกรณ์ออมทรัพย์ มสธ.จำกัด สำนักศิลปะวัฒนธรรมมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร ธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยเมืองทองธานี ธนาคารออมสิน
เปิดตำรา : วิวัฒนาการและศิลปะการจัดโต๊ะอาหาร เครื่องดื่ม โดยขวัญแก้ว วัชโรทัย
วัฒนธรรมการบริโภคอาหารการกินที่กำลังได้รับความนิยม นอกเหนือจากคุณค่าทางสารอาหารที่ได้รับในแต่ละมื้อ การบริโภคอาหารสามารถสร้างความสุขจากการลิ้มลองอาหารได้ ข้อที่หนึ่งการได้ลิ้มลองอาหารที่ได้รับการยอมรับว่ามี “รสชาติ” เลิศกว่าปกติ ข้อที่สองการใช้เครื่องปรุงที่ “เลือกสรร” มาแล้วเป็นอย่างดี และข้อที่สาม “รูปลักษณ์” ของอาหารชวนให้น่าลิ้มลอง การศึกษาความรู้ในตำรา “วิวัฒนาการและศิลปะการจัดโต๊ะอาหาร เครื่องดื่ม” โดยคุณขวัญแก้ว วัชโรทัย จะทำให้ทราบถึงประวัติความเป็นมาและวิวัฒนาการในการจัดโต๊ะอาหาร การเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงสิ่งเล็กน้อยของวัฒนธรรมเกี่ยวกับวิธีการจัดเลี้ยงอาหารในโอกาสสำคัญต่างๆ ซึ่งเป็นต้นแบบหรือตำราทางวิชาการสำคัญในศิลปะการจัดโต๊ะอาหารที่ถูกต้อง
งิ้ว : เปิดตำนานมหรสพจีนที่กำลังเลือนรางไป
อุปรากรจีนหรืองิ้ว อยู่คู่สังคมไทยมาร้อยปี ตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มมีการติดต่อค้าขายกับประเทศจีน ในสมัยสุโขทัยและได้เข้ามาตั้งหลักปักฐานในเมืองไทยในสมัยอยุธยา จึงเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมร่วมกับชาวจีน “งิ้ว” หนึ่งในมหรสพที่เกี่ยวข้องกับสังคม วัฒนธรรมและแนวคิดการดำรงชีวิตของชาวจีน ที่ยังได้รับการสืบทอดและปรับเปลี่ยนให้สามารถอยู่คู่กับสังคมไทยท่ามกลางความบันเทิงสมัยใหม่หลั่งไหลเข้ามา คนไทยเรารู้จัก “งิ้ว”มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จากบันทึกรายวันและจดหมายเหตุ กล่าวถึง การเดินทางสู่ประเทศสยามของบาทหลวงเดอ ชัวสี ตาชารต์ ทูตพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในคราวที่ติดตาม มองซิเออร์ เลอ เชอวาเลีย เตอโซมองต์ เมื่อวันที่
ตามรอยราชินีดอกไม้ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
หากกล่าวถึง “ราชินีดอกไม้” จะนึกถึงดอกกุหลาบภูพิงค์ ณ พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ พระตำหนักทรงไทยที่ตั้งอยู่ท่ามกลางดอกกุหลาบหลากสีหลายร้อยพันธุ์ ที่ส่งกลิ่นหอมตลบและประชันความงามอยู่ทั่วบริเวณพระตำหนักแห่งนี้ส่งผลให้ภูพิงคราชนิเวศน์สดสวยราวอุทยานสวรรค์ กุหลาบภูพิงค์ขึ้นจากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนพันปีหลวงทรงพระราชเสาวนีย์ในการปลูกกุหลาบภูพิงค์ เป็นเวลาเกือบ 50 ปีทีได้มีสั่งสมประสบการณ์นอกเหนือตำรา จนก่อกำเนิด “กุหลาบภูพิงค์” ซึ่งได้รับคำชมว่าเป็นกุหลาบที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก รูปที่ 1 พระตำหนักคราชนิเวศน์ ที่มา : http://www.bhubingpalace.org/
มาลัยข้าวตอก : ธัญพืชแห่งศรัทธาแห่งลุ่มน้ำชี
ประเทศไทยเป็นประเทศการเกษตรมีพื้นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การเพาะปลูก “ข้าว” เป็นอาหารหลักของคนในประเทศและเหลือเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย สังคมไทยนิยมปลูกข้าวเพื่อบริโภคมาตั้งแต่ยุคโบราณ เรียกได้ว่า ข้าวเป็นแหล่งอาหารที่หล่อเลี้ยงคนในสังคมไทย พิธีกรรมการปลูกข้าว การแปรรูปข้าวจึงเกิดขึ้น กลายเป็นวัฒนธรรมหนึ่งที่ชาวบ้านในแต่ละท้องที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งประเพณีที่เกิดจากข้าว ได้แก่ พิธีแห่นางแมวขอฝน พิธีแรกนาขวัญ พิธีขนข้าวเข้ายุ้ง พิธีล้อมข้าว และพิธีแห่มาลัยข้าวตอก ภาพที่ 1 ประเพณีมาลัยข้าวตอก ที่มา : http://www.fayardmun.go.th/index.php
เที่ยววันเดียวจบครบรสที่เมืองแม่กลอง
สังคมในเมืองปัจจุบันให้ความสนใจในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนในชุมชนมากขึ้น เนื่องจากสภาพสังคมที่แออัดของคนในกรุงเทพมหานครทำให้การพักผ่อนในรูปแบบท่องเที่ยวจึงเป็นที่ต้องการของคนในยุคปัจจุบัน จังหวัดสมุทรสงครามเป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากคนในเมือง ด้วยระยะทางใกล้กับกรุงเทพมหานคร สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู สมุทรสงครามในวันนี้จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในวันสุดสัปดาห์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนติดใจในเสน่ห์และวิถีชีวิตคนในเมือง ประวัติจังหวัดสมุทรสงคราม “เมืองแห่งวิถีชีวิต 3 น้ำอย่างยั่งยืน แหล่งอาหารทะเลและการเกษตรปลอดภัย การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง” คำขวัญประจำจังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดเล็กๆที่ตั้งอยู่ภาคกลางของประเทศไทยค่อนลงมาทางใต้ตามแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทยด้านตะวันตก ลักษณะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มน้ำและที่ราบชายฝั่งทะเลบริเวณปากน้ำแม่กลอง จึงได้นามว่า “เมืองแม่กลอง” แต่เดิมเมืองแม่กลองเป็นเมืองเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยปรากฏหลักฐานชื่อเมืองในพระไอยการนาทหารหัวเมืองกฎหมายตราสามดวงซึ่งตราขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ แห่งกรุงศรีอยุธยาซึ่งมีอายุมากกว่า 500
ขนมโคโบราณจากแหล่งใต้
ขนมไทยโบราณ เป็นอาหารคู่สำรับกับข้าวของคนไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ ดังคำว่าสำรับกับข้าวคาว-หวาน เป็นเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทยอย่างหนึ่งที่รู้จักกันดี เพราะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนประณีตในการทำตั้งแต่วัตถุดิบวิธีการทำที่กลมกลืน พิถีพิถันในเรื่องรสชาติ สีสัน ความสวยงาม กลิ่นหอม และรูปลักษณะที่ชวนน่ารับประทานตลอดจนกรรมวิธีการรับประทานขนมแต่ละชนิดจะแตกต่างกันไปตามลักษณะต้นกำเนิดของขนมในแต่ละภูมิภาค ประวัติขนมโค “ขนมโค” มีความสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์กับพื้นที่ภาคใต้มาอย่างยาวนาน จากความเชื่อของคนในพื้นถิ่นที่ว่า ขนมโคเป็นขนมมงคลใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา ใช้บูชาผี-เทวดา เช่น หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด พระพิฆเนศ เป็นต้น ขนมอีกชนิดหนึ่งที่ชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้นิยมนำวัสดุในท้องถิ่นมาทำเป็นขนมเพื่อบูชาองค์พิฆเนศ ซึ่งทางปักษ์ใต้เองก็มีขนมชนิดหนึ่งที่เรียกว่า ขนมดู ทำจากแป้งข้าวเจ้า
หนังประโมทัยอีสาน : หนังตะลุงของคนอีสาน
ศิลปะการแสดงเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของชาวบ้านในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งเกิดจากอารมณ์ ความรู้สึกและภูมิปัญญาถ่ายทอดมาสู่การแสดงนั้นๆ มีการรักษาให้คงอยู่ต่อไปและปรับเปลี่ยนให้มีรูปแบบที่ทันยุคสมัยในปัจจุบัน การแสดงหนังประโมทัยอีสาน เป็นหนึ่งในศิลปะการแสดงไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองและกลายเป็นมหรสพประจำถิ่น ที่มีชื่อเรียกต่างๆกันไปหลายชื่อ เช่น หนังปราโมทัย หมายถึง ความบันเทิงใจ, หนังปะโมทัย หมายถึง เป็นชื่อคณะหนังตะลุงที่มีชื่อเสียง, หนังบักตื้อ หรือปลัดตื้อ และหนังบักป่องบักแก้ว เป็นต้น ภาพที่ 1 :