การดื่มกาแฟเป็นสิ่งที่หลายคนใบปัจจุบันลุ่มหลง ด้วยความนิยมอย่างสูงทำให้เกิดมีร้านขายกาแฟอยู่แทบทุกแห่งหน ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกาแฟกลายเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง กว่ากาแฟจะมีอิทธิพลกับคนไทยเช่นนี้ มีเส้นทางการเติบโตอย่างไร เริ่มเข้ามาในแผ่นดินไทยตั้งแต่เมื่อใด แล้ววัฒนธรรมการดื่มกาแฟมีความสัมพันธ์กับชุมชนและสังคมไทยอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้
เดิมคนไทยเรียกกาแฟว่า ข้าวแฝ่ และเพี้ยนมาเป็น กาแฝ่ และ กาแฟ ในปัจจุบัน กาแฟเริ่มเข้ามาสู่แผ่นดินไทยตั้งแต่สมัยอยุธยาในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่เดิมคนไทยไม่นิยมดื่มกาแฟเพราะมีรสขมและคิดว่าเป็นยามากกว่าจะเป็นเครื่องดื่ม ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงรัชสมัยของรัชกาลที่ 3 เป็นช่วงที่มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติมาก และมีการปลูกกาแฟกันอย่างแพร่หลาย มีการทดลองปลูกกันในพระบรมหาราชวังและได้แจกจ่ายให้กับเสนาบดีไปปลูกกัน และเริ่มปลูกกันมากขึ้นเมื่อนายดีหมุน ชาวไทยเชื่อสายอิสลามได้นำเมล็ดพันธุ์กาแฟโรบัสต้ามาจากอินโดนีเซียเข้ามาปลูกที่อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ในช่วงปี พ.ศ. 2447 หลังจากนั้น นายเจรินี ชาวอิตาลี ก็ได้นำเมล็ดพันธุ์กาแฟอราบีกาเข้ามาปลูกในช่วงปี พ.ศ. 2493
วัฒนธรรมการดื่มกาแฟนั้น ในอดีตการดื่มกาแฟถือเป็นวัฒนธรรมเฉพาะของชนชั้นสูง และได้แพร่ขยายมาสู่ชนชั้นกลางและประชาชนทั่วไปในเวลาต่อมา ร้านกาแฟในประเทศไทยเกิดขึ้นครั้งแรกที่กรุงเทพ โดยชาวอเมริกันชื่อ Miss Edna S. Cole ผู้ก่อตั้งโรงเรียนวังหลัง หรือโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัยในปัจจุบัน โดยร้านตั้งอยู่บริเวณสี่กั๊กพระยาศรี (บริเวณสี่แยกจุดตัดระหว่างถนนเจริญกรุง ถนนเฟื่องนคร และถนนบ้านหม้อ) ชื่อร้าน “Red Cross Tea Room” ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2460 (สมัยรัชกาลที่ 6) ช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 เพื่อหาเงินให้สภากาชาดช่วยฝ่ายสัมพันธมิตร ส่วนร้านกาแฟแห่งแรกที่ก่อตั้งโดยคนไทย คือร้าน “คาเฟ เดอ นรสิงห์” โดย พลเอก พลเรือเอก มหาเสวกเอก เจ้าพระยารามราฆพ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ) ท่านมีความต้องการจะเปิดร้านกาแฟแบบชาวตะวันตก หรือที่เรียกว่า คาเฟ่ จึงได้ขอพระบรมราชานุญาตจากรัชกาลที่ 6 โดยตั้งร้านอยู่ในบริเวณบ้านนรสิงค์ ภายในรั้วของสนามเสือป่า ซึ่งบ้านนรสิงห์ในปัจจุบันคือที่ตั้งของทำเนียบรัฐบาลนั่นเอง ร้านกาแฟแห่งนี้เป็นแหล่งพบปะสังสรรค์ที่ได้รับความนิยมของเหล่าพ่อค้า ชาวต่างชาติ และผู้รับราชการเสือป่ารักษาพระองค์ ร้านกาแฟนรสิงห์ได้ปิดตัวลงในยุคของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 ในปัจจุบันได้กลับมาเปิดอีกครั้งโดยย้ายสถานที่ตั้งมาอยู่ที่ห้องรอเฝ้า หน้าพระตำหนักพิมานจักรี ภายในดุสิตธานี วังพญาไท โดยใช้ชื่อว่า ร้านกาแฟ เดอ นรสิงห์ ณ วังพญาไท
ภาพ “ร้านกาแฟ เดอ นรสิงห์ ณ วังพญาไท” ที่มา http://eatandtraveldiary.com/กาแฟนรสิงห์
สภากาแฟ คาเฟ่ และสตาร์บัคส์
สภากาแฟ ร้านกาแฟแบบชาวบ้านที่เกิดขึ้นตามชุมชนย่านตลาดเป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมและเป็นที่นิยมของคนในภาคใต้ของประเทศไทย เป็นแหล่งพบปะกันของคนในชุมชน การมานั่งดื่มกาแฟ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์ วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์บ้านเมือง จึงทำให้ร้านกาแฟเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ขายกาแฟ แต่เป็นที่ๆ คนมารวมกันเพื่อเข้าสังคม พบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน กลายเป็นวัฒนธรรมของคนในท้องถิ่น การมาพบปะแลกเปลี่ยนพูดคุยกันในร้านกาแฟนี้ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย ในต่างประเทศมีการรวมตัวลักษณะนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 คนในยุคสมัยนั้นถือว่าร้านกาแฟเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยใหม่ โดยในประเทศอังกฤษมีคำเรียกขานร้านกาแฟว่า “มหาวิทยาลัยเพนนี” (Penny Universities) คือถ้ามีเงินเพนนีซื้อกาแฟก็จะได้ความรู้กลับไปมากมายเหมือนได้เรียนในมหาวิทยาลัย หรือ ร้าน Llyod ร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนซึ่งมักจะมีพ่อค้า เจ้าของเรือ นายธนาคาร นายหน้าซื้อขายสินค้า แวะเวียนมาเสมอ เจ้าของร้าน Edward Lloyd จึงทำหน้าที่คอยให้ข่าวการเดินเรือ คอยช่วยเหลือเรื่องสัญญาประกันภัย จนสุดท้ายได้ก่อตั้งบริษัทประกันภัยทางทะเลขึ้น หรือแม้แต่ในประเทศฝรั่งเศส ร้าน Cafe Le Procope ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่ใกล้โรงละคร Comedie-Francaise ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นนักแสดง นักเขียน นักปรัชญา คนในแวดวงศิลปะ และนักคิดมากมาย จึงเห็นได้ว่าวัฒนธรรมการดื่มกาแฟจึงไม่ได้เป็นเพียงการดื่มกาแฟ หากเป็นแหล่งรวมผู้คนที่มีความสนใจสิ่งต่างๆ ก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ จากการถกเถียงประเด็นต่างๆ ร่วมกัน
ภาพ “London coffee house” ที่มา https://thonyc.wordpress.com/2015/09/29/the-penny-universities/
ภาพ “ร้านกาแฟเอี๊ยะแซ” ร้านกาแฟดั้งเดิมในเยาวราช ที่มา https://masii.co.th/blog/5-ร้านกาแฟโบราณ
ภาพบรรยากาศร้านสตาร์บัคส์ ที่มา https://www.tnews.co.th/headshot/317930/คนไทยจ่ายได้สบายมาก-สุดอึ้ง!!-สตาร์บัคไทย-ติดอันดับราคาแพงที่สุดในโลก!!-อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกสถานะรสนิยมทางสังคมหรือไม่-%28รายละเอียด%29
ในปัจจุบันยุคที่ร้านกาแฟยังคงเฟื่องฟูเช่นในอดีตและเพิ่มขึ้นอย่างทบทวีในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ความนิยมในการดื่มกาแฟยังคงปรากฏอยู่ในชนทุกระดับชั้น การนั่งดื่มกาแฟในร้านกาแฟยังคงเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยใหม่เช่นเดียวกับในสมัยศตวรรษที่ 16 หากแต่ร้านกาแฟในปัจจุบันมิได้เป็นแหล่งพบปะของคนในการแลกเปลี่ยนหรือถกเถียงทางปัญญาเช่นในอดีต การนั่งดื่มกาแฟในร้านที่มีการตกแต่งสวยงามเป็นร้านที่มีแบรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นการแสดงความเป็นตัวตนของชนยุคใหม่ หรือแม้แต่การนั่งทำงานในร้านกาแฟ การถ่ายภาพในมุมสวยๆ ของร้านกาแฟ เป็น lifestyle ของการใช้ชีวิตอย่างอิสระซึ่งเป็นสิ่งที่หนุ่มสาวยุคใหม่ต้องการ ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น วัฒนธรรมนี้ปรากฏในชุมชนเมืองทั่วโลก การดื่มกาแฟจึงเป็นวัฒนธรรมที่มีการวิวัฒน์ไปตามยุคสมัย ผันแปรไปตามสภาพและบริบทของสังคม จึงอาจกล่าวได้ว่า หากจะศึกษาวัฒนธรรมในยุคสมัยใดสามารถศึกษาได้จากวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของยุคนั้นนั่นเอง
เรียบเรียงโดย นางสาวจินตนา ปรัสพันธ์ ฝ่ายอุทยานการศึกษา สำนักการศึกษาต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บรรณานุกรม
สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน). [ออนไลน์]. กาแฟในประเทศไทย. [สืบค้นวันที่ 23 มีนาคม 2563]. จาก http://www.arda.or.th/kasetinfo/south/coffee/history/01-02.php
ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC). [ออนไลน์]. จากวัฒนธรรมนำเข้า สู่แบรนด์สินค้าส่งออก : ว่าด้วยเรื่องของ “กาแฟ” กับ “ชีวิตคนไทย”. [สืบค้นวันที่ 23 มีนาคม 2563]. จาก http://www.tcdc.or.th/articles/ business-industrial/15144/#จากวัฒนธรรมนำเข้า-สู่แบรนด์สินค้าส่งออก–ว่าด้วยเรื่องของ -กาแฟ-กับ-ชีวิตคนไทย-
วิกิพีเดีย. [ออนไลน์]. สี่กั๊กพระยาศรี. [สืบค้นวันที่ 23 มีนาคม 2563]. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/สี่กั๊กพระยาศรี
Jidapa Leelaseat. [ออนไลน์]. กาแฟนรสิงห์ ร้านกาแฟแห่งแรกของสยาม. [สืบค้นวันที่ 23 มีนาคม 2563]. จาก https://medium.com/@jidapaleelaseat/กาแฟนรสิงห์-ร้านกาแฟแห่งแรกของสยาม-3eda130dfe9c
Seetala Chanvised. [ออนไลน์]. ร้านกาแฟกับการเป็นแหล่งรวมตัวของผู้คนมาแต่ไหนแต่ไร!. [สืบค้นวันที่ 24 มีนาคม 2563]. จาก https://thematter.co/brandedcontent/class-cafe-coffee-house-02/75266