อุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
อุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก จัดสร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติเนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ และพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อว่า อุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก” เมื่อปี พ.ศ. 2530
และโดยที่ภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ภารกิจหนึ่งคือ ด้านการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม สำนักการศึกษาต่อเนื่อง จึงได้ก่อตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2531 เพื่อให้เป็นหน่วยงานหลักของมหาวิทยาลัยในการบริการทางวิชาการแก่สังคมและการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม โดยอุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก เป็นส่วนหนึ่งในภารกิจที่มหาวิทยาลัยมอบหมายให้สำนักการศึกษาต่อเนื่องดูแล
พื้นที่อุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของมหาวิทยาลัยจำนวน 135 ไร่ โดยให้ส่วนหนึ่งของพื้นที่เป็นส่วนอุทยาน อาทิ ศาลาพุ่มข้าวบิณฑ์ พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 และหอพระพุทธมิ่งมงคลธรรมสถาน ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนมาใช้ประโยชน์ เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและทัศนศึกษาได้อย่างเต็มที่
ศาลาพุ่มข้าวบิณฑ์
มหาวิทยาลัยได้สร้าง “ศาลาพุ่มข้าวบิณฑ์” เพื่อเป็นอาคารสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยที่แสดงถึงประวัติความเป็นมา และเพื่อใช้ในงานพิธีการสำคัญขิงมหาวิทยาลัย
ศาลาพุ่มข้าวบิณฑ์มีลักษณะเป็นอาคารทรงไทยประยุกต์จากสถาปัตยกรรมสุโขทัย มียอดเป็นพุ่มข้าวบิณฑ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่กลางสระน้ำ (ตระพังเขียว-ทอง) เป็นจุดเด่นและเป็นศูนย์กลางของ “อุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก” ภายในอาคารมีพื้นที่ใช้สอย 3 ชั้น
ชั้นที่ 1 เป็นหอประวัติของมหาวิทยาลัย บอกเล่าถึงความเป็นมาของมหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยสถาปนาขึ้นเมื่อไร และแสดงให้เห็นถึงการเรียนการสอนในระบบการศึกษาทางไกลตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย
ชั้นที่ 2-3 จะเกี่ยวกับพระราชประวัติของรัชกาลที่ 7
ศาลาพุ่มข้าวบิณฑ์ ออกแบบโดย รองศาสตราจารย์ ดร. ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้จัดวางอาคาร โดยตั้งอยู่กึ่งกลางของอุทยานการศึกษารัชมังคลาภิเษก จัดเป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่สุดในมหาวิทยาลัย
หอพระพุทธมิ่งมงคลธรรมสถาน
มหาวิทยาลัยได้สร้างหอพระประจำสถาบัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติ 60 ปี และฉลองครบรอบ 30 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัย การก่อสร้างได้เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 ออกแบบโดย รองศาสตราจารย์ ดร. ภิญโญ สุวรรณคีรี
หอพระเป็นอาคารจัตุรมุข ลักษณะแท่นฐานย่อมุมทั้งสี่ด้าน มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 120 ตารางเมตร โดยงานในลักษณะนี้จะออกแบบโดยตระกูลช่างในยุคสมัยต่างๆ ตระกูลช่างที่สำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจของผู้ออกแบบ คือ ตระกูลช่างลพบุรี และตระกูลช่างสุโขทัย โดยตระกูลช่างสุโขทัยมีลักษณะการออกแบบที่ต่อเนื่องจากตระกูลช่างลพบุรี เอกลักษณ์หลายๆ อย่างของตระกูลช่างสุโขทัย เช่น ใบระกา หรือหน้าบัน ณ วัดศรีสวาย วัดพระพายหลวง จังหวัดสุโขทัย เป็นแม่แบบที่ศึกษา เมื่อศึกษาแล้วมาออกแบบใหม่ไม่ใช่ลอกแบบดังที่ปรากฏ
พระพุทธมหามุนีศรีสุโขทัยธรรมาธิราช
พระประจำมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเป็นองค์พระพุทธรูปหล่อปางมารวิชัยได้รับชื่อพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 จัดสร้างขึ้นเนื่องในวโรกาสทรงครองราชย์สมบัติครบ 60 ปี และเป็นการฉลองครบรอบ 30 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชโดยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชได้จัดพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธมหามุนีศรีสุโขทัยธรรมาธิราช ณ พระอุโบสถวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร กรุงเทพฯ
การออกแบบพระพุทธรูปศึกษาจากพระพุทธรูปเดิมที่เป็นมาตรฐานของช่างหลวง ตั้งแต่สมัยสุโขทัย เชียงแสน เป็นต้นมา แล้วจึงได้เขียนแบบ ให้ช่างปั้นเป็นองค์จำลองขึ้นมาก่อนองค์จริง
พระพุทธมหามุนีศรีสุโขทัยธรรมาธิราช มีขนาดหน้าตักกว้าง 80 เซนติเมตร สูง 108 เซนติเมตร ประดิษฐานอยู่ในหอพระพุทธมิ่งมงคลธรรมสถาน
รองศาสตราจารย์ ดร. ภิญโญ สุวรรณคีรี เป็นผู้ออกแบบและควบคุมการหล่อพระพุทธมหามุนีศรีสุโขทัยธรรมาธิราช
พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ตามพระนามเดิมในพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เมื่อครั้งทรงดำรงพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา” มหาวิทยาลัยจึงได้สร้าง “พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว” ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหน้าอุทยานการศึกษา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในขณะที่ดำรงพระอิสริยยศเป็น “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร” เสด็จพระราชดำเนินแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2536