คำถามที่พบบ่อย

(1) เอกสารประกอบการสอน (สำหรับตำแหน่ง ผศ.) หรือ เอกสารคำสอน (สำหรับตำแหน่ง รศ.) ต้องทำกี่วิชา ต้องทำทุกวิชาที่สอนหรือไม่ ต้องทำของรายวิชาที่สอนย้อนหลังกี่ปี

เอกสารประกอบการสอน และเอกสารคำสอน มิได้นับเป็นผลงานทางวิชาการ แต่เป็นส่วนใช้ประกอบการประเมินผลการสอน

หากท่านมีรายวิชาที่สอนเต็มรายวิชา (2 หน่วยกิตขึ้นไป) ก็ทำรายวิชาเดียวพอ
แต่ถ้าไม่มีรายวิชาที่สอนเต็มรายวิชา ก็อาจทำเอกสารฯ ของหลายวิชาที่สอน (โดยรวมกันแล้วเทียบได้ไม่น้อยกว่า 2 หน่วยกิต)
และไม่จำเป็นต้องทำย้อนหลังไปหลายๆ ปี

(มติ กพว. 2/50 - 2 ก.พ. 2550)

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.31.19

(2) ในการขอตำแหน่ง รศ.จะยื่นหนังสือ หรือ ตำรา เป็นผลงานวิชาการ ซึ่งเป็นรายวิชาเดียวกับเอกสารคำสอนได้หรือไม่

สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ หนังสือ ตำรา เอกสารคำสอน เอกสารประกอบการสอน มีลักษณะ (ตามคำจำกัดความ) ที่แตกต่างกัน
หากท่านยื่นเป็นผลงานประเภทใดก็ต้องมีลักษณะตามคำจำกัดความของผลงานประเภทนั้นๆ และประเด็นในการประเมินคุณภาพก็แตกต่างกัน

อนึ่ง มีข้อสังเกตว่า ตำราอาจจะมิได้พิมพ์เข้าปกเป็นรูปเล่มจากโรงพิมพ์แต่เป็นการถ่ายสำเนาเป็นรูปเล่มก็ได้ แต่ต้องมีการใช้ประกอบการสอนมาแล้วอย่างน้อย 1 ภาคการศึกษา
และสำหรับหนังสือ ต้องมีหลักฐานว่าได้เผยแพร่แล้วไม่น้อยกว่า 4 เดือน

ท่านสามารถศึกษารายละเอียดของคำจำกัดความ ลักษณะการเผยแพร่ และระดับคุณภาพของผลงานทุกประเภทได้จากประกาศ ก.พ.อ. (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2550

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.30.48

(3) ในการขอกำหนดตำแหน่ง ผศ. หรือ รศ. หรือ ศ. ต้องยื่นผลงานวิจัยกี่เรื่อง

ระบุจำนวนแน่นอนไม่ได้ แต่ควรจะมีจำนวนมากพอที่แสดงว่าท่านเป็นผู้มีความชำนาญหรือเชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ

ทั้งนี้คุณภาพของงานสำคัญกว่าปริมาณ หากท่านยื่นผลงานจำนวนมากเกินไปอาจมีผลต่อการหาผู้ทรงคุณวุฒิประเมินผลงานของท่าน และมีผลต่อระยะเวลาในการประเมินด้วย

ดังนั้น หากท่านมีผลงานจำนวนหลายชิ้น ผลงานชิ้นที่ท่านมีส่วนร่วมเพียงเล็กน้อยจึงไม่ควรนำมายื่น

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.33.44

(4) ผลงานวิจัยที่ผู้ขอกำหนดตำแหน่งมีส่วนร่วมในงานไม่ถึงร้อยละ 50 สามารถนำมาใช้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งได้หรือไม่

ถ้าผู้ขอกำหนดตำแหน่งเป็นผู้ดำเนินการหลักในงานชิ้นนั้น และมีงานวิจัยเรื่องอื่นที่เกี่ยวเนื่องสอดคล้องกัน
ซึ่งแสดงปริมาณผลงานวิจัยรวมกันแล้วเทียบปริมาณได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของงานหนึ่งเรื่อง
ก็ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ สามารถนำมาใช้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งได้

(ประกาศ ก.พ.อ. ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2550)

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.39.34

(5) ผลงานทางวิชาการที่ไม่ใช่งานวิจัย (เช่น ตำรา หนังสือ บทความทางวิชาการ) ที่ผู้ขอกำหนดตำแหน่งมีส่วนร่วมในงานไม่ถึงร้อยละ 50 สามารถนำมาใช้ยื่นขอกำหนดตำแหน่งได้หรือไม่

กรณีนี้ถือว่าผลงานไม่เป็นไปตามเกณฑ์ปริมาณ แต่หากผู้ขอยืนยันจะส่งงานนั้น ก็ถือเป็นดุลพินิจของผู้ทรงคุณวุฒิ (Readers) ว่าจะประเมินงานชิ้นนั้นๆ หรือไม่ก็ได้

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.39.05

(6) กรณีผู้ขอกำหนดตำแหน่งมีผลงานวิจัยที่นำเสนอในที่ประชุมวิชาการ และมี Proceedings ซึ่งตีพิมพ์เฉพาะ Abstract เท่านั้น จะสามารถนำมายื่นเสนอขอกำหนดตำแหน่งได้หรือไม่

ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากผู้ทรงคุณวุฒิ (Readers) ไม่สามารถประเมินคุณภาพของผลงานได้

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.41.35

(7) บทความวิจัยที่ส่งไปตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติและได้รับการตอบรับ (Accept) ไว้ตีพิมพ์แล้ว สามารถนำมายื่นขอกำหนดตำแหน่งได้หรือไม่

ถ้ามีจดหมายตอบจากบรรณาธิการอย่างชัดเจนว่า จะตีพิมพ์ผลงานของท่านในวารสารฉบับใด ปีใด ก็สามารถนำมายื่นขอกำหนดตำแหน่งได้
ซึ่งเมื่อผู้ทรงคุณวุฒิ (Readers) ได้พิจารณาแล้ว หากคุณภาพและปริมาณงานเป็นไปตามเกณฑ์ ก็จะถือว่าผ่านการประเมินตั้งแต่วันที่ผลงานตีพิมพ์

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.46.38

(8) งานวิจัยบางเรื่องที่มีผู้ทำวิจัยร่วมด้วย แต่ไม่สามารถติดต่อมาร่วมลงนามได้ จะต้องดำเนินการอย่างไร

กรณีนี้ ให้แสดงหลักฐานการไม่สามารถติดต่อได้ เช่น จดหมายถูกตีกลับ และให้ท่านทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรแนบมากับหลักฐาน
ให้ผู้บังคับบัญชา (หัวหน้าแขนงวิชา) ลงนามรับรอง และระบุจำนวนผู้ร่วมงานทุกคน รวมทั้งระบุหน้าที่และความรับผิดชอบในผลงานนั้นของแต่ละคน
ซึ่งกรณีนี้จะถือว่า ผู้ร่วมงานทุกคนมีส่วนร่วมในผลงานฯ นั้น เท่าเทียมกัน

อนึ่ง มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมว่า

- กรณีที่มีผลงานวิจัยที่ได้เผยแพร่ในวารสารทางวิชาการแล้ว และได้นำเสนอผลงานนั้นในที่ประชุมวิชาการ
ซึ่งได้เผยแพร่ผลงานเป็นบทความในประมวลการประชุมฯ (Proceedings)
โดยทั้งสองบทความมีเนื้อหาใจความเหมือนกัน ทั้งนี้อาจจะมีหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงชื่อก็ตาม
ควรเลือกนำมายื่นเพียงรายการเดียว เพราะหากท่านนำมายื่นทั้งสองรายการ อาจเป็นจุดที่ได้รับคำตำหนิจากกรรมการฯ ผู้ประเมินคุณภาพได้

- การระบุปริมาณงานที่ท่านและผู้ร่วมงานในผลงานทางวิชาการ แต่ละชิ้นต้องตรงกันไม่ว่าผู้ร่วมงานคนใดนำมายื่นในอดีต หรืออนาคต
งานบางชิ้นอาจเกินความสามารถที่ ฝ่ายเลขานุการ กพว. จะตรวจสอบได้
หากมีการพบความไม่ตรงกันอาจเกิดปัญหาด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณได้
ดังนั้นก่อนที่ท่านจะลงนามรับรองความเป็นจริงและถูกต้องของเอกสารทุกรายการที่นำมายื่น
กรุณาตรวจสอบและเก็บหลักฐานการลงนามรับรองการมีส่วนร่วมของงานทุกชิ้นของท่านไว้ด้วย

ปรับปรุงข้อมูลโดย นาย ชวนิจ วงศ์จรรยา | 2560-07-24_13.55.14