ติวสอบกันค่ะ ^____^

[KrittayaLee]

โมดูล 13 Summarizing Information (Aj. Narinthip)

โมนี้ อาจจะให้บทความมา แล้วเราเลือกข้อที่สรุปดีที่สุด
หรือ อาจจะมีถามว่า ขั้นตอนการสรุป ทำไง ไรงี้

ขั้นแรก เราต้องอ่านบทความ และหา main point ให้ได้
แล้วเราต้องเอา main point นั้นมาเขียน โดยใช้คำตัวเอง
ต้อง paraphrase นะคะ ไม่งั้นก็ถือว่า plagiarism เหมือนเดิมนะคะ
ก็อบแปะ ไม่ได้นะ!!
การเขียนสรุป ต้องมี main point ของผู้เขียน
ต้องเรียงลำดับข้อมูลตามผู้เขียน
ต้องมีข้อมูลและสรุปสำคัญของผู้เขียน
ต้องเขียนให้สั้นๆ กระชับ 3-7 ประโยค
ต้องอ้างอิงด้วยว่าเราสรุปมาจากบทความอะไร
ถ้าจะเพิ่มข้อคิดเห็นของตัวเอง ต้องมีคำบอกให้ชัดว่าส่วนนี้คือความเห็นเรา เช่นคำว่า In my opinion, ....

[lugsamee]

Hello everyone,
I'm so glad to see our learning community flourish like this. Anyway, just wanna share a link that could be useful for your previous discussion on Paraphrasing & Plagiarism kha. Please try Purdue University Online Writing Lab (Purdue OWL) , and you'll find information and exercises on "quotations, paraphrases, and summaries, all of which could help get you ready for the exam na kha.

[KrittayaLee]

Dear Aj. Lugsamee,
Thank you for your supporting and sharing. This website is very useful.
I will practice more to get better ka ^_____^

[miscellaneous]

ตามมาเก็บรายละเอียดต่อครับ

[Boonyalip]

Thank you krub ajarn Lugsamee.

[Krissmaln]

คุณคะ กระทู้นี้คือดีมาก รักเจ้าของกระทู้เลย อิอิ

[KrittayaLee]

สู้ๆ ค่ะ หวังว่าจะมีประโยชน์นะคะ K. miscellaneous

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ ขอให้โชคดีในการสอบนะคะ K. Krissmaln

[KrittayaLee]

ใครลง 14216 เทอมนี้ มีติวที่บอร์ดวิชานั้นด้วยนะคะ

[KrittayaLee]

Module 14 Recognizing My Errors

สำหรับโมดูล 14 ต้องอาศัยบุญเก่านิดนึง ไม่ช่ายยย
ต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับแกรมม่าเยอะพอสมควร
แนทคงไม่มาติวแกรมม่าทั้งหมด
ให้ลองเข้าไปดู ทีอาจารย์สอนตรงบรรยายสรุปโมดูล 14 นะคะ
อาจารย์ยกตัวอย่างไว้หลายๆ แบบ
แล้วลองหาข้อสอบ errors มาลองทำดูนะคะ


อาจารย์ให้หาความรู้เรื่อง Part of Speech ศึกษาเพิ่มเติม
เพราะงั้นแนทจะอธิบายง่ายๆ ให้เพื่อนๆ ฟังว่า มันมีอะไรบ้าง

Part of Speech คือ หน้าที่ของคำในประโยคค่ะ มี 8 อย่าง

1. Noun คือ คำนาม
คำนามคือคำที่ใช้เรียกคน สัตว์ สิ่งของ
เช่น แมว คุณกานดา โต๊ะ เก้าอี้

2. Pronoun คือ คำสรรพนาม
คำสรรพสนาม คือคำที่ใช้แทนคำนาม
เช่น ประธาน I, You, We, They, He, She, It
กรรม me, you, us, them, him, her, it

3. Verb คือ คำกริยา
คำกริยา คือ คำที่แสดงอาการทางกายทางใจ บอกสภาวะ
อาการทางกาย เช่น กิน นอน เดิน
อาการทางใจ เช่น คิด รู้สึก
บอกสภาวะ เช่น มี(have), มีอยู่ (exist)

4. Adverb คือ คำกริยาวิเศษณ์
คำกริยาวิเศษณ์ คือ ขยายกริยา
Adverb of manner เช่น เดินอย่างช้า (walk slowly) slowly ขยาย walk แล้ว walk เป็นกริยา slowly เป็น adv.
Adverb of frequency เช่น always, sometimes, often, rarely

5. Adjective คือ คำคุณศัพท์
คำคุณศัพท์ คือ คำขยายคำนาม
เช่น แนทสวย = แนทเป็นคำนาม สวยขยายแนท เพราะงั้น สวยคือ Adj.
เช่น เก้าอี้สีแดง = เก้าอี้เป็นคำนาม สีแดงขยายเก้าอี้ เพราะงั้น สีแดงคือ Adj.
เช่น ยีราฟสูง = ยีราฟเป็นคำนาม สูงขยายยีราฟ เพราะงั้น สูงคือ Adj.

6. Preposition คือ คำบุพบท
คำบุพบท คือ คำที่ใช้บอกตำแหน่ง คำที่เชื่อมคำนาม สรรพนามและวลี
เช่น in, on, at, under, above, into, over

7. Conjunction คือ คำสันธาน
คำสันธาน คือ คำเชื่อมคำ กลุ่มคำ หรือ ประโยค เข้าด้วยกัน
เช่น and, or, but, yet, so, although, when, after

8. Interjection คือ คำอุทาน
เช่น Wow!, Great!, Excellent!, OMG!, Oh!, Oops!


รู้แล้วเอาไปใช้ประโยชน์ยังไงดี...
มาดูตัวอย่างกันค่ะ

It difference from one culture to another.
ประโยคนี้มีที่ผิดตรงไหนเอ่ย
เฉลย ผิดตรง difference ค่ะ สังเกตนะคะ ในประโยคนี้ ไม่มี verb เลย
difference เป็นคำนาม เราต้องการ verb จึงใช้คำว่า differs แทน
แก้เป็น It differs from one culture to another.


อีกข้อนะ
In spite of his injured, he decided to take part.
ข้อนี้ สังเกตคำว่า his คำนี้มันมักจะนำหน้าคำนามใช่ไหมคะ
เช่น his cat ไรงี้
In spite of ต้องตามด้วยคำนามด้วย
เพราะงั้น injured นี้ เป็น adj. แต่เราต้องการคำนาม
จึงใช้คำว่า injury แทน
ก็จะเป็น In spite of his injury, he decided to take part.

ถ้าเราฝึกมอง part of speech ให้ออก เราจะแทบไม่ต้องแปลประโยคก็หา errors ได้นะคะ

สู้ๆ ค่ะทุกคน ^_____^

[KrittayaLee]

เฮลโหลลลววว เตรียมตัวสอบไปถึงไหนกันแล้วค่ะ

เมื่อวานเข้าไลฟ์แชทโมดูลที่ 14
ก่อนที่อาจารย์จะจากไปประดุจซินเดอเรลล่ารีบวิ่งจากเจ้าชายในเวลาเที่ยงคืน
อาจารย์ได้ให้ปริศนาทิ้งท้ายไว้หนึ่งคำ คือคำว่า "Collocation"
โอ๊ะ โอ.. มันคืออิหยังหนาาา

วันนี้เลยจะเอาความรู้ (เท่าที่รู้ เท่าที่ไปหามา) มาแบ่งปันเพื่อนๆ ค่ะ


Collocation คือ การปรากฏร่วมของคำ
หมายถึงว่า คำที่ต้องใช้ร่วมกันเสมอ เช่น คำศัพท์ A และ B ไม่งั้นถือว่าใช้ผิด
ทำไมเราต้องรู้จักตัวนี้ เขาบอกว่าจะทำให้เราใช้ภาษาอังกฤษได้ใกล้เคียง native speaker มากขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น do homework (ไม่ใช่ make homework)
make mistake (ไม่ใช่ do mistake)
afraid + of
agree + with (someone)
agree + on (topic)
suggest + that
heavy rain (ไม่ใช่ strong rain)


ลองยกตัวอย่างมาคร่าวๆ ให้เพื่อนๆ ปรึกษาอากู๋ได้เต็มที่เลยนะคะ ในหัวข้อนี้ ฮ่าๆๆๆ
ลองเซิร์ชใน YouTube ก็มีคนอธิบายไว้เช่นกัน ไปแล้วค่า ^_____^