ติวสอบกันค่ะ

[KrittayaLee]

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ร่วมคลาสทุกคน
ใกล้สอบแล้ว อยากชวนมาติวสอบกัน
ขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้เก่งอะไร ถ้าโพสอะไรผิดไป สามารถท้วงติงได้
จะได้เรียนรู้ร่วมกัน...
คนติวก็ยังไม่เคยสอบมาก่อน ไม่รู้ว่าข้อสอบจะออกอะไรบ้างเหมือนกัน
ถ้ารุ่นพี่ผ่านมาเห็น อยากแนะนำให้จำตรงไหนเพิ่มก็บอกได้นะคะ

อยากให้ทุกคนอ่านหนังสือให้จบก่อน อย่างน้อย 1 รอบนะคะ
มาอ่านแต่กระทู้นี้ อาจไม่รอดนะเออ

เริ่มกันเลยดีกว่า....

[KrittayaLee]

สำหรับ โมดูล 1 Phonetic Symbols 1 (Consonants)

ใครที่ยังจำตารางเสียงพยัญชนะ หน้าที่ 13 ไม่ได้
ขอแนะนำวิธีของแนทให้ไปลอง
ส่วนใครจำได้แล้ว ก็ไม่ต้องเปลี่ยนวิธีค่ะ
ทุกคนควรหาวิธีจำที่เหมาะกับตัวเอง

อันดับแรก แนทจะท่อง Place of Articulation ก่อนเลย
ท่องในที่นี้ คือท่องเรียงลำดับตามตาราง ไม่ให้เรียงลำดับผิดเพี้ยน
เวลาเราไปเขียนใส่ตาราง ก็จะได้ไม่สลับตำแหน่งกัน
อันดับแรก จำก่อนว่า มันมีทั้งหมด 8 ตำแหน่ง เพื่อจะได้นับทุกครั้งเวลาเขียน
กันลืมเขียนไม่ครบ
แล้วก็มาไล่ค่ะ
1. Bilabial ริมฝีปากล่าง > ริมฝีปากบน
2. Labio-dental ริมฝีปากล่าง > ฟันบน
3. Dental ปลายลิ้น> ฟันบน
4. Alveolar ปลายลิ้น > ปุ่มเหงือก
5. Palatal alveolar ลิ้นส่วนปลาย > ปุ่มเหงือก ลิ้นส่วนหน้ายกขึ้น
6. Palatal ลิ้นส่วนหน้า > เพดานแข็ง
7. Velar ลิ้นส่วนหลัง > เพดานอ่อน
8. Glottal เส้นเสียงเคลื่อนที่เข้าหากัน จนเกิดช่องว่างแคบๆ

เรานั่งไล่ 8 อันนี้ ห้ามสลับก่อน อันดับแรก
ถ้ายังสลับ ไล่ไปแค่ 8 ตัวนี้ อย่าเพิ่งไปเพิ่มความปวดหัวให้ตัวเอง
จนเราไล่ 8 ตัวนี้ ไม่สลับ ก็ไปเลเวลต่อไปคือ..

จำ Manner of Articulation ลักษณะการออกเสียง
วิธีเดิมค่ะ จำก่อนว่ามีทั้งหมด 6 แบบ
คราวนี้ก็ไล่ให้ครบ ห้ามสลับตำแหน่ง
1. Plosive กักระเบิด
2. Affricate กักแทรก
3. Fricative เสียดแทรก
4. Nasal นาสิก
5. Lateral ข้างลิ้น
6. Approximant กึ่งสระ

ส่วนตัวจะจำทั้งภาษาอังกฤษและไทย ข้อสอบจะมาแนวไหน เราก็ทำได้หมด
พอเราไล่ครบทั้งสองอย่างนี้ เราจะได้หัวตารางเรียบร้อย
ถือว่าสำเร็จไปครึ่งนึงแล้วนะ ตบมือ...

ทีนี้เราต้องเอาเสียงพยัญชนะมาใส่
ช่องนึง จะใส่ได้เต็มที่ 2 เสียง คือเสียง voiceless และ voiced ตามลำดับ
แนทจำแนวนอนคือจำว่า..
Plosive เราจะเริ่มที่ช่องแรก bilabial แล้วเว้น 2 ช่อง ไปเติมอีกที alveolar เว้น 2 ช่อง ไปเติมอีกที velar
โดยเติมทีละคู่ pb, td, kg ตามลำดับ
พอเราได้ช่อง Plosive เราจะได้ช่อง Affricate ทันที
โดยเพ่งไปที่ plosive ตัว td ที่อยู่ช่อง alveolar เราเลื่อนลงมา 1 บรรทัด เป็น Affricate
แล้วเยื้องไป 1 ช่องที่ Palatal Alveolar จะได้ tʃ และ dʒ เนื่องจากมันขึ้นต้นด้วย t กับ d เหมือนกัน
เราก็แทบไม่ต้องจำอะไรยาก แต่ต้องจำว่า tʃ คือเสียงพวก ch- และ dʒ คือเสียงพวก j

Fricative จำว่า ต้องใส่ทั้งหมด 5 ช่อง โดยเว้นช่องแรกไป 1 ช่อง
เริ่มเติมเสียงพยัญชนะที่ Labio-dental คือ fv, θð, sz, ʃʒ เว้น 2 ช่อง แล้วเติม h ที่ Glottal ในตำแหน่ง voiceless
สังเกต ʃ และ ʒ จะตรงกับ tʃ และ dʒ อยู่ในช่อง Palatal alveolar ถ้าไม่ตรง แสดงว่าใส่ผิด
ที่ต้องจำคือ θ = th ในคำว่า thank และ ð = th ในคำว่า them
ส่วน ʃ = sh ในคำว่า shoe และ ʒ = รูปที่ปรากฎในคำเป็น s หรือ ge แต่เสียงค้ลาย ช เช่น คำว่า measure, garage

ครึ่งทางแล้วค่ะ

ต่อมา Nasal ค่อนข้างจำง่าย
มี 3 ช่อง ใส่ voiced ทั้งหมด
คือ m, n, ɳ โดยใส่ตั้งแต่ช่อง bilabial แล้วเว้น 2 ช่อง ใส่ alveolar เว้น 2 ช่อง ใส่ velar
ɳ คือ งองู บ้านเราค่ะ
จบ..

Lateral แนทจำว่า ใส่ให้ตรงกับ n ในเสียง nasal

ส่วน Approximant มี สามตัว r, j, w เป็น Voiced หมดเช่นกัน
ใส่ในช่องตั้งแต่ Palatal alveolar, palatal และ glottal เรียงไป
โดยที่ w จะพิเศษหน่อย สามารถอยู่ในช่อง bilabial ได้ด้วย

* j = มันคือเสียง y ในคำว่า you

ถึงตรงนี้ เราก็มานับ ถ้าเราใส่ได้ 25 เสียง อย่าตกใจ เพราะ w อยู่ได้สองที่
แต่จริงๆ มันมี 24 เสียงค่ะ

แนวนอน ช่องที่มีเสียงเยอะสุดคือ fricative (9 เสียง) แนวตั้งช่องที่มีเสียงเยอะสุดคือ alveolar (4 เสียง)
มีแค่ h ที่เราเติมเดี่ยวๆ แล้วอยู่ช่อง voiceless
นอกนั้น ไอ้ที่เติมตัวเดียว อยู่ช่อง voiced หมดค่ะ


แนทเขียนหลายรอบนะ กว่าจะจำได้
ไม่ได้บอกว่ามันจำง่าย แต่มั่นใจว่าถ้าพยายามจริงๆ จำได้แน่นอนค่ะ
แต่เราต้องทำให้มันเป็นระบบ แล้วไม่สะเปะสะปะไป สู้ๆ ค่ะทุกคน

[miscellaneous]

ตามมาเก็บ

[KrittayaLee]

โมดูล 1 (ต่อ)

ถ้า(คิดว่า)จำตารางได้แล้ว ให้ลองทำตามนี้ค่ะ
1. ปิดหนังสือ
2. ลองทำแบบฝึกหัดต่อไปนี้
หมายเหตุ: นึกไม่ออกให้วาดตาราง โดยห้ามเปิดหนังสือ ถ้าจำไม่ได้แอบเปิดหนังสือ ต้องวาดตารางเองใหม่ก่อน แล้วค่อยทำต่อ

1. เสียง k กับ g ต่างกันอย่างไร
2. เสียงที่ออกเสียงโดยมีกระแสลมออกจากช่องจมูก มีเสียงอะไรบ้าง ตำแหน่งการเกิดเสียงอยู่ที่ใดบ้าง
3. คำว่า that ตำแหน่งการเกิดเสียงอยู่ที่ใด
4. ตัว j ของคำว่า juice คือเสียงสัทอักษรใด
5. voiceless glottal คือเสียง...

ซ้อมก่อนค่า ถ้าตอบ 5 ข้อนี้ได้ แบบสบายๆ แสดงว่าเริ่มจำได้แล้ว
แต่ถ้าตอบ 5 ข้อนี้อย่างทุลักทุเล พลิกนู่นนี่ เหงื่อซกๆ ลองเขียนตารางใหม่แล้วลองจำใหม่วนไปค่ะ

[KrittayaLee]

โมดูล 1 (ต่อ)

นอกเหนือจากตารางที่จำได้แล้ว จำอะไรอีกดี?

1. ความแตกต่างของเสียงพยัญชนะกับสระ แตกต่างกันตรงไหนบ้าง?
= แตกต่าง 2 ข้อนะคะ คือ 1) เสียงพยัญชนะเกิดจากการเคลื่อนที่ของอวัยวะในการออกเสียงเข้ามาหากัน แต่เสียงสระเกิดจากการวางตำแหน่งของลิ้นที่ต่างกัน 2) การสั่นสะเทือนของเสียง ถ้าเป็นเสียงพยัญชนะจะมีทั้งสั่น (โฆษะ-voiced) และ ไม่สั่น (อโฆษะ-voiceless) ในขณะที่เสียงสระจะเป็นโฆษะทั้งหมด

2. ถึงเราจะท่อง ลักษณะการออกเสียง ทั้งหมด 6 แบบได้ แต่เราต้องรู้รายละเอียดด้วยนะ ว่าแต่ละอย่าง เหมือนตรงไหน ต่างยังไง
- ฐานกรณ์ปิดสนิท = Plosive, affricate, nasal
**** fricative ไม่ปิดสนิท แต่อยู่ใกล้กันมากจนได้ยินเสียงลมแทรกผ่าน ส่วน approximant ใกล้กัน แต่ไม่มีเสียงลมแทรก****
**** Plosive กับ Affricate เหมือนกันทุกอย่างตอนกักลม แต่พอเปิดฐานกรณ์ plosive จะเปิดเร็วลมระเบิด แต่ affricative เปิดช้ากว่า****
**** nasal เพดานอ่อนลดต่ำ ช่องจมูกเปิด ลมผ่านช่องจมูก นอกนั้นเสียงอื่นๆ เพดานอ่อนสูง ช่องจมูกปิด****

lateral เสียงข้างลิ้น ก็จำว่า ลมผ่านข้างลิ้นค่ะ

3. ท่องตารางได้ แต่ต้องจำสัญลักษณ์สัทอักษรแต่ละตัวด้วย ว่ามันเป็นเสียงยังไง วิธีจำแนทคือจำตัวอย่างคำ
เช่น tʃ ก็จำว่า พวก ch เช่น chair, หรือ t ที่ออกเสียงคล้ายๆ ช ใน furniture งี้
คือเราจำตัวอย่างคำไว้ อย่างละ สองสามคำ แล้วค่อยไปแมชเอาเวลาเจอในข้อสอบค่ะ

[miscellaneous]

1. เสียง k กับ g ต่างกันอย่างไร
เป็นเสียง Velar Plosive เหมือนกัน ต่างแค่ /k/ เป็นเสียง voiceless /g/ เป็น voiced

2. เสียงที่ออกเสียงโดยมีกระแสลมออกจากช่องจมูก มีเสียงอะไรบ้าง ตำแหน่งการเกิดเสียงอยู่ที่ใดบ้าง
nasal -
Voiced Bilabial Nasal /m/
Voiced Alveolar Nasal /n
Velar Nasal /ŋ /

3. คำว่า that ตำแหน่งการเกิดเสียงอยู่ที่ใด
ข้อนี้วิธีจำ คือ เสียง th ต่างๆ จะอยู่ dental [dental = teeth / dentist]
**dental นึกถึงฟันบนเสมอ

และลักษณะการออกเสียงคือ Fricative


4. ตัว j ของคำว่า juice คือเสียงสัทอักษรใด
/dʒuːs/
/dʒ/ = j
/u:/ = สระ
/s/ = พยัญชนะท้าย

5. voiceless glottal คือเสียง...
glottal มีเสียงเดียว คือ /h/
แต่มันอยู่กึ่งๆระหว่าง voiceless/voiced (ถ้าออกสอบควรตอบแบบไหนดี...5555)

[KrittayaLee]

โมดูล (1)

ส่วนอันนี้ คือข้อสอบ หลังจากเราจำทุกอย่างได้แล้ว
ลองทำดูค่ะ
ใครยังจำไม่ได้ อย่าเพิ่งมาดูนะคะ
ไปท่องก่อน แล้วค่อยกลับมา test ใหม่ค่ะ

1. เสียง th ของคำว่า throw เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
2. เสียง p ของคำว่า panda เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
3. เสียง j ของคำว่า join เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
4. เสียง ph ของคำว่า phrase เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
5. เสียง ch ของคำว่า church เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
6. เสียง wr ของคำว่า wrong เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
7. เสียง th ของคำว่า than เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
8. เสียง ps ของคำว่า psychology เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
9. เสียง y ของคำว่า year เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
10. เสียง s ของคำว่า vision เป็นเสียงที่เกิดจากฐานกรณ์ใด ลักษณะการออกเสียงเป็นแบบใด เส้นเสียงสั่นไหม
11. ความแตกต่างของการออกเสียงพยัญชนะและสระมีอะไรบ้าง
12. เสียงใดบ้าง ที่เกิดจากการเลื่อนตัวลงของเพดานอ่อน ทำให้ช่องปากปิด แล้วลมผ่านช่องจมูก
13. เสียงใดบ้าง ที่เกิดจากฐานกรณ์ปิดสนิท เพดานอ่อนยกสูง ลมถูกกักไว้หลังฐานกรณ์ พอฐานกรณ์เปิดจะเปิดช้าทำให้ได้ยินเสียงเสียดแทรกด้วย
14. เสียงใดบ้าง ที่เกิดจากฐานกรณ์ไม่ปิดสนิท แต่ไม่ใกล้กันจนได้ยินเสียงลมแทรก
15. จงอธิบายการเกิดเสียง f

ตอบถูกหมด ไปบทต่อไปเลยค่ะ ^____^

[KrittayaLee]

พี่ทีอย่างไว 555
ทุกคนลองคิดเองก่อนอย่าเพิ่งลอกคำตอบเพื่อนนะคะ ^____^
ขอเชิญพี่ที ติวโมดูล 2 นะคะ เดี๋ยวแนทมาต่อหลังจากพี่ทีอีกทีค่ะ

[miscellaneous]

มาต่อกัน Module ที่ 2 นะครับ (หากมีข้อมูลอะไรผิดพลาด รบกวน อาจารย์และเพื่อนช่วยแก้ไขด้วยนะครับ)

ผมจะช่วยวิธีการจำมากกว่าครับ (ขอให้อ่านหนังสือก่อน แล้วเอาทริกการจำไปใช้ครับ)

Articulation for vowels ลักษณะทั่วไปของการออกเสียงสระ ประกอบด้วย 3 ปัจจัย คือ
1-- ความสูงต่ำของลิ้น (ดูคางหมู สูง กลาง ต่ำ หรือ Close Mid Open)
วิธีจำ (ทริกการจำเท่านั้น) ถ้าเรายกกรามและลิ้นขึ้น ปากเราจะ Close ถ้าเลื่อนกรามและลิ้นต่ำ ปากเราจะ Open

2-- ส่วนของลิ้นที่ยกสูง (ดูคางหมู หน้า กลาง หลัง)
วิธีดูว่าสระไหนจะยกลิ้นส่วนไหนสูง ให้ดูว่ามันอยู่ใกล้เส้น หน้า กลาง หรือ หลัง

3-- รูปร่างริมฝีปาก
จะมี 3 แบบ คือ ห่อปาก เหยียดปาก และ ไม่ห่อไม่เหยียด
วิธีจำ สระเดียวหน้าทั้งหมด เหยียดปาก (ดูในคางหมูวงสีฟ้า)
สระเดี่ยวกลางทั้งหมด และ /a:/ ไม่ห่อไม่เหยียด /a:/ มันอยู่ค่อนมากลาง (ดูในคางหมูวงสีเหลือง)
สระเดี่ยวหลัง ห่อปาก (ดูในคางหมูวงสีแดง)

หรือออกเสียงดู...ถ้าออกเสียงถูก ปากจะเหยียด หรือห่อ.....

[miscellaneous]

สระเสียงเดี่ยว มี 12 ตัว ประกอบด้วย
ต้องจำ 2 อย่างคือ
1. สระเสียงสั้น และสระเสียงยาว ดูที่เครื่องหมาย : (ถ้ามีก็คือเสียงยาว)
2. ตำแหน่งในคางหมู (หน้า กลาง หลัง)

วิธีการจำสระเสี่ยงเดี่ยวหน้า
Cat men sit read ใครจะจำแบบอื่นก็ได้นะครับ

Cat /kæt/
Men /men/
Sit /sit/
Read /ri:d/

วิธีจำสระเสียงเดี่ยวกลาง
Prefer Come America

Prefer /prɪˈfɜːr/
Come /kʌm/
America /əˈmer.ɪ.kə/

วิธีจำสระเสียงเดี่ยวหลัง
Push to talk of art

Push /pʊʃ/
to /tu:/
talk /tɔːk/
of /ɑv/
art /a:t/